Search for:
  • Home/
  • Games News/
  • ยางสำหรับรถอีวี ความเหมือนที่แตกต่าง

ยางสำหรับรถอีวี ความเหมือนที่แตกต่าง

คนที่เคยไปส่องรถพวกนี้อาจจะมีคนที่สังเกตเห็นว่า ยางรถยนต์ที่รถพวกนี้ใช้นั้น จะมีการระบุว่า ออกแบบและผลิตขึ้นมาสำหรับใช้กันรถอีวีโดยเฉพาะ อะไรคือจุดที่ยางที่พัฒนาขึ้นสำหรับอีวีนั้น แตกต่างจากยางทั่วไปที่เราคุ้นเคยบ้าง เรามาดูกัน 1คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ออกแบบมาเพื่อรับน้ำหนักบรรทุกที่มากขึ้น แก้มยางของรถอีวี จะได้รับการเสริมความแข็งแรงมากเป็นพิเศษ เนื้อจากน้ำหนักรถเปล่าของรถอีวี สูงกว่ารถทั่วไปหลายร้อยกิโลกรัม จากการที่ต้องบวกน้ำหนักของแบตเตอรี่จำนวนมากเอาไว้ โดยว่ากันว่าแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ที่มีความจุระดับกลาง ๆ คือ 50 กิโลวัตต์ชั่วโมงนั้นจะมีน้ำหนักเฉลี่ยราว 330 กิโลกรัม (ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าจะลดน้ำหนักลงได้ถึงราว 190 กิโลกรัม) และรถอีวี ที่มีน้ำหนักแตะสองตันนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก ดังนั้นแม้ยางที่ใช้จะเป็นยางที่ดูผอมๆแต่เอาจริงๆ มันรับน้ำหนักได้มากกว่ายางทั่วไปมาก ดังนั้นถ้าเราอยากที่จะเอาง่าย แล้วไปเอายางที่มีจำหน่ายทั่วไปมาใช้ การทรงตัวของรถก็อาจจะยวบย้วยได้ จากการที่แก้มยางรับน้ำหนักได้ไม่พอ ถ้าจะเป็นต้องเลือกยางทั่วไปจริงๆ ก็ขอแนะนำให้ส่องที่แก้มยาง หาค่าดัชนีการรับน้ำหนัก ที่ระบุว่า “XL” ก็จะแข็งแรงพอเพียง

  1. รถอีวี มีอัตราเร่งที่ฉับพลัน จากการที่แรงบิดของมอเตอร์ไฟฟ้านั้นมีมาให้เต็มที่ตั้งแต่ออกตัว เรื่องนี้จะสัมพันธ์กับข้อ 1 นั่นเอง ก็คือแก้มยางจะต้องรองรับการเร่งที่รวดเร็วได้เป็นอย่างดี โดยโครงสร้างภายในของยางนั้นจะเป็นวัสดุสังเคราะห์เกรด กันกระสุน อย่าง อารามิด (Aramid) หรือ เคฟล่าร์ (Kevlar)
  2. รูปทรงหน้ายางแบนเรียบ ในขณะที่ยางของรถทั่วไปหน้ายางที่สัมผัสพื้นค่อนข้างจะโก่งขึ้นทางด้านแก้มยางด้านนอก แต่สำหรับยางรถอีวี มักจะทำให้แบนที่สุด เพื่อผลในการช่วยลดแรงกดที่กระทำต่อหน้ายาง
  3. รถไฟฟ้าทุกคัน มีความต้องการที่จะวิ่งให้ได้ระยะะทางมากที่สุด แต่พลังงานที่สะสมไว้ในเซลแบตเตอรี่นั้นมีจำกัด การจะขยายความจุของแบตเตอรี่นั้นมีต้นทุนที่สูง ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามที่จะพัฒนายางที่มีแรงต้านในการหมุนให้ต่ำที่สุด (Low Rolling Resistant) ซึ่งเทคนิกการผลิตให้ยางที่แรงต้านต่ำนั้น ว่ากันว่า แต่ละโรงงานล้วนแล้วแต่มีความลับทางการผลิตเป็นของตัวเอง อาทิ ยางฮันกุก (Hankook) จากเกาหลีนั้น ให้เทคนิคควบคุมระยะเวลาในการบ่มยางอันเป็นเอกสิทธิ์ของพวกเขา
  4. ในเมื่อเอาเครื่องยนต์และท่อไอเสีย ที่เป็นแหล่งกำเนิดเสียงที่ดังน่ารำคาญออกไป เหลือแต่มอเตอร์ไฟฟ้าที่ฮัมเบาๆ ดังนั้นห้องโดยสารจึงเป็นสถานที่ที่เงียบสงบ และในเมื่อไม่มีเสียงเครื่องยนต์แล้ว เสียงอื่นๆ ที่เกิดขึ้นก็จะกลายเป็นเสียงที่น่ารำคาญแทนในสุด ไม่ว่าจะเป็นเสียงลมที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่าง หรือประตู และที่แน่นอนก็คือ เสียงยางที่บดถนน หลายๆ บริษัทพบว่า หนึ่งในวิธีที่ดีก็คือ การซับเสียงภายในช่องว่างระหว่างยาง และล้อ ด้วยการติดตั้งฟองน้ำเซลล์เปิด (Open Cell Foam) ด้วยวิธีนี้ เสียงและความสั่นสะเทือนจะถูกซับเอาไว้ อย่างน้อย 3-9 เดซิเบล ซึ่งตามหลักแล้ว ความต่าง 10 เดซิเบล เท่ากับดังขึ้นเป็นสองเท่านั่นเอง

เรียกได้ว่า อีกสัก 2 ปี ต้องมีคนตื่นตัวเรื่องยางประเภทนี้แน่นอน ถึงตอนนั้นก็พิจารณาเลือกให้ได้ของที่ดีที่สุดกับตัวท่านก็แล้วกันนะขอรับคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง!.